คณะกรรมาธิการเกษตรฯ สภาผู้แทนราษฎร เสนอ 7 มาตรการเร่งด่วนแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ พร้อมประสาน DSI สืบสวนต้นตอการแพร่ระบาด

คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศทางน้ำและวิถีชีวิตของชาวประมงไทย โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมครั้งสำคัญนี้ ได้แก่ ผู้แทนอธิบดีกรมประมง ผู้แทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ผู้แทนสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ผู้แทนสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย และผู้แทนกรรมการประมงประจำจังหวัดจันทบุรี

นายศักดินัย นุ่มหนู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตราด พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงถึงผลการประชุมเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 ณ รัฐสภา โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งกำลังสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อระบบนิเวศทางน้ำและส่งผลกระทบโดยตรงต่อการประกอบอาชีพของชาวประมงทั่วประเทศ

คณะกรรมาธิการฯ ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งหมด 7 ข้อ โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  1. ผลักดันให้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเป็นวาระแห่งชาติโดยเร่งด่วน โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ขับเคลื่อนหลัก

 

  1. จัดทำแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนในการกำจัดปลาหมอคางดำ โดยคำนึงถึงความแตกต่างของแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา พร้อมทั้งพิจารณาการผ่อนผันให้ใช้เครื่องมือประมงบางประเภทที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัด

 

  1. สนับสนุนมาตรการรับซื้อปลาหมอคางดำในราคากิโลกรัมละ 15 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการแปรรูปสัตว์น้ำเพื่อช่วยรับซื้อ

 

  1. ประสานความร่วมมือกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้ที่เป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาด

 

  1. เร่งหาจุดรับซื้อปลาหมอคางดำในจังหวัดที่ยังไม่มี โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่เป็นเขตกันชน เช่น จังหวัดจันทบุรี

 

  1. เสนอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง โดยเฉพาะมาตรา 65 และมาตรา 144 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและควบคุม รวมถึงเพิ่มบทลงโทษที่รุนแรงขึ้นสำหรับผู้ที่เป็นต้นเหตุแห่งการแพร่ระบาด

 

  1. เร่งควบคุมการระบาดในพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดแล้ว และป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่ที่ยังไม่พบ โดยสร้างความร่วมมือกับองค์กรในท้องถิ่น

ผลกระทบของปลาหมอคางดำต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจประมง

ปลาหมอคางดำ (Channa maculata) เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานรุนแรง ซึ่งได้สร้างผลกระทบอย่างมากต่อระบบนิเวศทางน้ำของประเทศไทย โดยเฉพาะในแหล่งน้ำจืดและน้ำกร่อย ปลาชนิดนี้มีความสามารถในการปรับตัวสูง แพร่พันธุ์ได้รวดเร็ว และมีนิสัยกินเนื้อ ทำให้เป็นภัยคุกคามต่อสัตว์น้ำพื้นถิ่นหลายชนิด นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจการประมงของไทย โดยทำให้ปริมาณสัตว์น้ำที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจลดลงอย่างมาก ส่งผลให้รายได้ของชาวประมงลดลงตามไปด้วย

การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว