“โจ ณัฐวุฒิ” จัดเต็ม! สอนมวยไทยให้แฟนคลับ 15 คนโชคดีที่ซื้อบัตร ONE Fight Night 24

ในวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา “โจ ณัฐวุฒิ” นักมวยไทยชื่อดังวัย 35 ปี ได้ร่วมมือกับองค์กร ONE Championship จัดกิจกรรมสุดพิเศษให้กับแฟนมวยผู้โชคดี 15 ราย ที่ซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน ONE Fight Night 24 ล่วงหน้า โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นที่ค่ายมวย ส.เดชะพันธ์ ซึ่งเป็นค่ายมวยชื่อดังในวงการมวยไทย

การแข่งขัน ONE Fight Night 24 จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์ของอเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 07.00 น. ของเช้าวันเสาร์ที่ 3 สิงหาคมนี้ในประเทศไทย โดยผู้ชมชาวไทยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ผ่านช่องทางที่ ONE Championship จัดเตรียมไว้

ในงานสัมมนาครั้งนี้ “โจ ณัฐวุฒิ” ได้สละเวลาอันมีค่าถึง 45 นาทีเต็ม เพื่อสอนมวยไทยแบบตัวต่อตัวให้กับแฟนกีฬาทั้ง 15 คน ซึ่งนับเป็นโอกาสอันหาได้ยากที่จะได้เรียนรู้ศิลปะมวยไทยจากนักมวยระดับโลกอย่างใกล้ชิด นอกจากจะได้รับความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับมวยไทยแล้ว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้มีโอกาสพูดคุย ถ่ายภาพ และขอลายเซ็นจาก “โจ ณัฐวุฒิ” อย่างเป็นกันเอง พร้อมทั้งได้รับของที่ระลึกมากมายกลับบ้านอีกด้วย

บรรยากาศการฝึกสอนมวยไทย

ในช่วงการฝึกสอน “โจ ณัฐวุฒิ” ได้แบ่งปันเทคนิคการชกมวยไทยขั้นพื้นฐานให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม โดยเริ่มจากการสอนท่ายืนมวยไทยที่ถูกต้อง การชกหมัดตรง การเตะ และการป้องกันตัว นักมวยรุ่นพี่ได้ให้คำแนะนำอย่างละเอียดและเป็นกันเอง ทำให้บรรยากาศการเรียนเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความกระตือรือร้นของผู้เข้าร่วมทุกคน

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นภารกิจสุดท้ายของ “โจ ณัฐวุฒิ” ในประเทศไทย ก่อนที่เขาจะเดินทางกลับไปยังสหรัฐอเมริกาในวันจันทร์ที่ 22 ธันวาคมนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ปอนด์) กับ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์คนปัจจุบัน ในศึก ONE 169 ซึ่งจะจัดขึ้นในเช้าวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้

สำหรับแฟนมวยที่สนใจเข้าชมการแข่งขันศึก ONE 169 สามารถลงทะเบียนซื้อบัตรล่วงหน้าได้ทางเว็บไซต์ visit.onefc.com/one169-presale นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของการแข่งขันได้ผ่านทางเฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh อีกด้วย

การจัดกิจกรรมพิเศษเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่ ONE Championship มีต่อแฟนกีฬา และเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยส่งเสริมวงการมวยไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลมากยิ่งขึ้น