เขื่อน ภัทรดนัย เปิดใจครั้งแรก: บทเรียนชีวิตและความเจ็บปวดที่สุด

เขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ อดีตสมาชิกวง K-OTIC ที่โด่งดังในอดีต ได้ออกมาเปิดใจในรายการโทรทัศน์กับพิธีกรชื่อดัง วู้ดดี้ วุฒิธร มงคลเกียรติ เผยเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาและบทเรียนสำคัญที่ได้เรียนรู้ เขื่อนเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ แม้ว่าเขาจะเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก่อน

ในการสัมภาษณ์ เขื่อนได้เล่าถึงประสบการณ์ในอดีตที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองจนรู้สึกไม่ชอบตัวเอง เขาเผยว่าเคยใส่ใจความคิดเห็นของคนรอบข้างมากเกินไป จนทำให้เปลี่ยนแปลงตัวเองตามความต้องการของคนอื่น “มันมีวันหนึ่งที่ผมฟังเสียงคนรอบนอกเยอะมากๆ ถ้าใครไม่ชอบอะไร ผมก็จะเปลี่ยนตามนั้น จนวันหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วกลายเป็นว่าไม่ชอบตัวเอง” เขื่อนเล่า

การเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง: กระบวนการค้นพบตัวตน

เขื่อนได้เล่าถึงกระบวนการที่เขาใช้ในการเรียนรู้ที่จะรักตัวเองมากขึ้น เริ่มจากการตั้งคำถามกับตัวเองว่าไม่ชอบอะไร และทำไมถึงรู้สึกเช่นนั้น จากนั้นจึงค่อยๆ ปรับเปลี่ยนและทำความรู้จักกับตัวเองให้มากขึ้น “ผมเริ่มเขียนบันทึกเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง และค่อยๆ ทำความเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ผมไม่ชอบ และผมสามารถแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนได้อย่างไร” เขากล่าว

เมื่อถูกถามถึงสิ่งที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต เขื่อนตอบว่าเป็นเรื่องของเวลา “ผมโฟกัสกับงานและคนอื่นมากเกินไป จนลืมไปว่าเวลาส่วนตัวของผมอาจจะเหลือน้อย” เขาอธิบายว่าความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะทุกคนมีเวลาจำกัด และเราต้องหาวิธีที่จะทำให้มันเวิร์คกับทุกคนให้มากที่สุด

ในส่วนของการอยู่ในวงการบันเทิง เขื่อนเลือกที่จะไม่เกลียดใคร เขาอธิบายว่า “ผมเลือกที่จะไม่เกลียดคน ไม่ใช่เพราะว่าผมเป็นคนดีอะไร แต่เพราะว่าวันหนึ่งผมได้เรียนรู้จากการเกลียดและการโดนเกลียด” เขาพบว่าการเกลียดคนทำให้รู้สึกเหนื่อยและส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของตัวเอง

เขื่อนยังเน้นย้ำว่าการเลือกที่จะไม่ยุ่งกับความขัดแย้งและโฟกัสกับการทำสิ่งดีๆ ให้กับตัวเองและคนอื่น ทำให้เขารู้สึกสบายใจและมีพลังงานมากขึ้น “ใครจะมีปัญหากับเรา ใครจะมีเรื่องกับเรา ใครมาชวนตี เราเฉยๆ อ่ะ เพราะเรารู้สึกว่าไม่อยากยุ่งด้วยนะ เลยเหลือพลังงานเยอะขึ้นเลยครับ” เขากล่าวทิ้งท้าย

บทสัมภาษณ์นี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางความคิดและจิตใจของเขื่อน ภัทรดนัย จากอดีตศิลปินวัยรุ่นสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจชีวิตมากขึ้น เรื่องราวของเขาอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในชีวิตให้เรียนรู้ที่จะรักและเข้าใจตัวเองมากขึ้น