สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยกลับมาน่าเป็นห่วงอีกครั้ง หลังจากศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายสัปดาห์ล่าสุดระหว่างวันที่ 2-8 มิถุนายน 2567 พบว่ามีผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลสูงถึง 2,762 ราย เฉลี่ยวันละ 395 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าถึง 899 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 48.3 นับเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดที่น่าเป็นห่วง
นอกจากนี้ ยังพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสัปดาห์นี้จำนวน 5 ราย เฉลี่ยวันละ 1 คน แม้จะลดลงจากสัปดาห์ก่อนเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลขที่น่าวิตก โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นมา มีผู้ป่วยสะสมที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้วทั้งสิ้น 23,245 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 137 ราย
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เตือนประชาชนอย่าได้ประมาท และให้ระมัดระวังตัวเองอย่างเคร่งครัด เนื่องจากสถานการณ์กำลังอยู่ในช่วงที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น
ความหวังใหม่: วัคซีนโอมิครอน “KP.2” นวัตกรรมล้ำหน้าสู้การกลายพันธุ์
ในขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดกำลังน่าเป็นห่วง ก็มีข่าวดีเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนโอมิครอน “KP.2” ซึ่งเป็นนวัตกรรมล้ำหน้าในการต่อสู้กับการกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนา 2019
วัคซีน KP.2 นี้ได้รับการพัฒนาโดยเพิ่มการกลายพันธุ์ที่สำคัญ เช่น V1104L ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการกระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นในการต่อต้านสายพันธุ์ไวรัส SARS-CoV-2 ที่เกิดการกลายพันธุ์ใหม่ๆ วัคซีนนี้มีแนวโน้มที่จะได้รับการอนุมัติให้ใช้เป็นวัคซีนหลักในการป้องกันโควิด-19 สำหรับฤดูกาล 2024/2025 และคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการชะลอการแพร่ระบาดของโรคในระดับโลก
ในสถานการณ์ที่ยอดผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มสูงขึ้นเช่นนี้ ประชาชนจึงควรเพิ่มความระมัดระวัง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนรุ่นใหม่อย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยต่อไป