ศึกมวยโลกระดับตำนานที่แฟนกำปั้นทั่วโลกจับตามอง ศึกชิงแชมป์โลกสภามวยโลก (WBC) รุ่นเวลเตอร์เวต ระหว่าง มาริโอ บาร์ริออส เจ้าของเข็มขัด และ แมนนี่ ปาเกียว อดีตยอดกำปั้นแชมป์โลก 8 รุ่น ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่สังเวียน เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ อารีนา สหรัฐอเมริกา เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา
บรรยากาศในสังเวียนเต็มไปด้วยความกดดัน เกมการชกตลอด 12 ยกเต็มไปด้วยดราม่าและความดุเดือด ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลดราวาศอก ก่อนที่กรรมการทั้ง 3 ท่านจะตัดสินให้ บาร์ริออส เป็นฝ่ายชนะไปด้วยคะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ โดยหนึ่งท่านให้ บาร์ริออส ชนะ 115-113 ส่วนอีกสองท่านให้คะแนนเสมอกัน 114-114 ส่งผลให้ผลการชกออกมาเป็นการเสมอกันด้วยเสียงข้างมาก
แม้ผลบนเวทีจะจบลงแบบก้ำกึ่ง แต่สิ่งที่ถูกพูดถึงไม่แพ้กันคือเรื่องของ “ค่าเหนื่อย” ในไฟต์นี้ โดยเฉพาะฝั่ง แมนนี่ ปาเกียว ตำนานกำปั้นชาวฟิลิปปินส์ที่สร้างความฮือฮาอีกครั้งกับตัวเลขค่าตัวที่สูงมหาศาล
ค่าเหนื่อยของ แมนนี่ ปาเกียว
ตามรายงานระบุว่า ปาเกียวได้รับค่าตัวเบื้องต้นสูงถึง 12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 389 ล้านบาท และยังมีรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแบบ PPV ที่คาดว่าจะดันรายได้รวมสูงถึง 17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 550 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ตอกย้ำถึงพลังดึงดูดของตำนานกำปั้นวัย 46 ปีรายนี้
ในขณะเดียวกัน มาริโอ บาร์ริออส เจ้าของตำแหน่งแชมป์ปัจจุบันที่แม้ชื่อเสียงยังไม่เทียบเท่าคู่ชก แต่ก็ได้รับผลตอบแทนที่มากที่สุดในชีวิตการชกเช่นกัน โดยรับค่าตัวเบื้องต้น 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 32 ล้านบาท) และยังมีส่วนแบ่งจากค่า PPV ที่ทำให้รายได้รวมไม่เกิน 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 81 ล้านบาท) ซึ่งนับว่าเป็นไฟต์ที่สร้างรายได้สูงสุดให้กับกำปั้นวัย 30 ปีรายนี้
ไฟต์ดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างความเร้าใจบนสังเวียน แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลและมูลค่ามหาศาลในโลกกำปั้น ที่ทำให้ชื่อของ “แมนนี่ ปาเกียว” ยังคงทรงพลังไม่เสื่อมคลาย แม้จะผ่านช่วงพีคของเส้นทางอาชีพไปแล้วก็ตาม
