วันที่ 5 กันยายน 2568 — ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย หลังจากการพิจารณาและลงมติตามกระบวนการที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ถือเป็นก้าวสำคัญทางการเมืองที่ได้รับความสนใจจากสังคมในวงกว้าง
วาระการประชุมภายใต้มาตรา 159
การประชุมครั้งนี้มีการเลื่อนวาระสำคัญขึ้นมาพิจารณาตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อเสนอชื่อและลงมติบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยที่ประชุมเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาได้อภิปราย ถกเถียง และซักถามคุณสมบัติของผู้ถูกเสนอชื่ออย่างครบถ้วน ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการลงคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการ
ผู้ถูกเสนอชื่อและการอภิปราย
การเสนอชื่อครั้งนี้มี 2 แคนดิเดตหลัก ได้แก่
- นายไชยชนก ชิดชอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล
- พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ทั้งสองแคนดิเดตได้รับการนำเสนอให้สมาชิกอภิปรายถึงคุณสมบัติ ความเหมาะสม และแนวนโยบาย ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการลงคะแนนเสียงแบบเปิดเผย
ผลการลงมติ
เมื่อเข้าสู่การลงคะแนนเป็นรายบุคคล ผลปรากฏว่านายอนุทินได้รับคะแนนเสียงข้างมากจากที่ประชุม ถือเป็นการยืนยันว่าการแต่งตั้งครั้งนี้เป็นไปตามขั้นตอนของรัฐสภาและสอดคล้องกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
ผลคะแนนโหวต
- เห็นชอบนายอนุทิน ชาญวีรกูล 311 เสียง
- เห็นชอบนายชัยเกษม นิติสิริ 152 เสียง
- งดออกเสียง 27 เสียง
ผลคะแนนสะท้อนการสนับสนุนจากเสียงข้างมากอย่างชัดเจน และส่งผลให้การแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่เป็นไปโดยสมบูรณ์
สรุปและความหมายทางการเมือง
การลงมติในวันที่ 5 กันยายน 2568 ทำให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับความไว้วางใจจากสภาผู้แทนราษฎรขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย กระบวนการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองที่สร้างความเปลี่ยนแปลง และยังต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป ทั้งในด้านการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ การกำหนดแนวนโยบาย และทิศทางการบริหารประเทศที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
