เรื่องราวน่าทึ่งนี้เกิดขึ้นในรัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา เมื่อชายคนหนึ่งชื่อว่า เดวิด เดคุก (David DeCook) ได้เดินทางไปยัง อุทยานแห่งรัฐคราเตอร์ออฟไดมอนด์ส กับครอบครัว ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับคนที่ชอบค้นหาเพชร ระหว่างเดินเล่นในอุทยาน เขาเหลือบไปเห็นวัตถุบางอย่างบนพื้นที่สะท้อนแสงคล้ายซองลูกอม ตกใจเพียงเล็กน้อย แต่พอลองหยิบมาพิจารณาอย่างจริงจัง กลับรู้สึกว่าอาจเป็นของมีค่า
เดคุกหยอกครอบครัวแบบขำ ๆ ว่า “สิ่งนี้คุณจะอิจฉาผมแน่” และเขาก็ไม่ผิด เพราะหลังจากกลับไปตรวจสอบที่บ้านและนำมาให้เจ้าหน้าที่อุทยานช่วยยืนยันอีกครั้ง วัตถุนั้นกลายเป็น เพชรแท้สีน้ำตาลน้ำหนัก 3.81 กะรัต ซึ่งถือเป็นเพชรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่พบในอุทยานแห่งนี้ในปีนี้ มีรูปทรงสามเหลี่ยม สีทองแดงวาว และได้รับการจดทะเบียนเป็นเพชรเม็ดที่ 217 ของปี
เขาตั้งชื่อให้เพชรเม็ดนี้ว่า “Duke Diamond” โดยอิงจากชื่อสุนัขของเขา และในตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเก็บไว้หรือนำไปใช้ประโยชน์อย่างไรต่อไป แต่เจ้าตัวยอมรับว่ารู้สึกโชคดีมาก เพราะเคยมาอุทยานแห่งนี้หลายครั้งและเคยเจอเพชรเม็ดเล็ก ๆ มาบ้าง แต่ไม่มีครั้งไหนจะใหญ่เท่าครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ของอุทยานเปิดเผยว่า สาเหตุที่เพชรถูกพบได้ง่ายในช่วงเดือนเมษายน มาจากฝนที่ตกหนักต่อเนื่องมากกว่า 300 มิลลิเมตร น้ำฝนได้พัดพาหน้าดินออกไป ทำให้แร่ธาตุและเพชรที่อยู่ใกล้ผิวดินเผยตัวออกมา เป็นช่วงที่หลายคนมักโชคดี
พื้นที่ของอุทยานแห่งนี้มีประวัติยาวนาน เดิมเป็นที่ดินของ จอห์น ฮัดเดิลสตัน ซึ่งเป็นคนแรกที่พบเพชรในบริเวณนี้ในปี 1906 และนับแต่นั้น มีการค้นพบเพชรมากกว่า 75,000 เม็ด โดยเฉพาะสีขาว น้ำตาล และเหลือง ซึ่งเป็นสีที่พบมากที่สุด
ไฮไลต์ของที่นี่คือเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่มีชื่อว่า “Uncle Sam” หนักถึง 40.23 กะรัต ถูกค้นพบในปี 1924 และภายหลังถูกเจียระไนจนเหลือ 12.42 กะรัต จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์
ต่อมาในปี 1972 พื้นที่นี้ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งรัฐ และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปค้นหาเพชรได้อย่างเสรี โดยเพียงแค่ซื้อบัตรเข้าชม ผู้เข้าชมก็สามารถขุดหาเพชรเองได้ตามสบาย และหากเจอเพชรจริง ก็สามารถนำกลับไปได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม
