เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีก่อนยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลก เมื่อ ซูซาน ลีห์ สมิธ (Susan Leigh Smith) หญิงชาวอเมริกันวัย 23 ปี ก่อเหตุฆาตกรรมลูกชายสองคนของเธอ ไมเคิล วัย 3 ขวบ และอเล็กซานเดอร์ วัย 14 เดือน ด้วยการทำให้พวกเขาจมน้ำในทะเลสาบแห่งหนึ่งในรัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อปี 1994 (พ.ศ. 2537)
คดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อทั่วโลก เนื่องจากซูซานได้สร้างเรื่องโกหกว่ามีชายผิวดำคนหนึ่งลักพาตัวลูกชายของเธอไปในระหว่างการปล้นรถ เธอและสามีได้ปรากฏตัวบนสื่อระดับประเทศและร้องขอความช่วยเหลือในการค้นหาลูกชายของเธอ ซึ่งทำให้เกิดการตื่นตัวในสังคมและความพยายามในการค้นหาเด็กทั้งสองอย่างกว้างขวาง
อย่างไรก็ตาม ความจริงที่น่าสะเทือนใจได้ถูกเปิดเผยเมื่อซูซานสารภาพว่าไม่มีการปล้นรถเกิดขึ้นจริง และเธอเองเป็นผู้ที่ทำให้ลูกชายสองคนจมน้ำเสียชีวิต ด้วยการปล่อยให้รถไหลลงไปในทะเลสาบขณะที่ลูกชายทั้งสองยังถูกมัดอยู่ในที่นั่งในรถ ทำให้ทั้งสองจมน้ำเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ
แรงจูงใจที่เธออ้างในการก่อเหตุอันโหดร้ายนี้คือ เธอมีความสัมพันธ์กับชายผู้มั่งคั่งที่ไม่ต้องการมีลูก ซึ่งทำให้เธอตัดสินใจกำจัดลูกชายทั้งสองเพื่อรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ เหตุการณ์นี้ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมอย่างมาก และนำไปสู่การสืบสวนอย่างเข้มข้น จนกระทั่งรถถูกดึงขึ้นจากน้ำโดยที่เด็กชายสองคนยังคงมัดอยู่ในที่นั่ง ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การดำเนินคดีกับซูซาน
ในระหว่างการพิจารณาคดี ทีมทนายความฝ่ายจำเลยได้นำผู้เชี่ยวชาญมาให้การในศาลว่า ซูซานมีปัญหาด้านสุขภาพจิตที่ทำให้การตัดสินใจของเธอผิดพลาดในขณะที่ก่อเหตุ แม้จะมีการนำเสนอหลักฐานทางจิตเวชนี้ แต่ศาลก็ยังคงตัดสินว่าซูซานมีความผิดในข้อหาฆาตกรรม อย่างไรก็ตาม เธอรอดพ้นจากโทษประหารชีวิตและได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตแทน
ชีวิตในเรือนจำ: จากฆาตกรสู่สาวฮอตหลังกำแพง
ปัจจุบัน ซูซาน สมิธ อายุ 52 ปี กำลังรับโทษอยู่ที่เรือนจำ Leath Correctional Institution ใกล้กับเมืองกรีนวูด รัฐเซาท์แคโรไลนา โดยตามข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์ของรัฐเซาท์แคโรไลนา เธอจะมีสิทธิ์ขอพักโทษได้ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2024
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือชีวิตของซูซานในเรือนจำ สื่อต่างประเทศอย่าง New York Post ได้รายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ซูซาน สมิธ ได้กลายเป็นที่สนใจของชายหลายคนในเรือนจำ โดยเธอมีการติดต่อสื่อสารกับชายหลายคนผ่านระบบส่งข้อความและโทรศัพท์ของเรือนจำ
บันทึกการสนทนาแสดงให้เห็นว่า ตลอดสามปีที่ผ่านมา สมิธมีการติดต่อเชิงชู้สาวกับชายอย่างน้อยสิบสองคนในเรือนจำ ซึ่งหลายคนไม่รู้ว่าเธอคุยกับคนอื่นด้วยเช่นกัน เรื่องนี้ทำให้เกิดความสับสนและความผิดหวังในหมู่ชายที่คุยกับเธอ โดยหนึ่งในชายที่เคยคุยกับเธอเล่าว่า เขาตัดสินใจเลิกคุยกับเธอเพราะเห็นว่าเธอคุยกับชายคนอื่นหลายคนในเชิงชู้สาว
“ผมเริ่มหลงรักเธอ แต่เธอก็ยังคุยกับชายคนอื่น ๆ” ชายคนหนึ่งที่เคยคุยกับสมิธมานานกว่า 18 เดือนกล่าว แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกผิดหวังและหึงหวงที่เกิดขึ้น
เมื่อชายคนนี้หยุดติดต่อ สมิธพยายามส่งข้อความหาเขา แต่เมื่อไม่ได้รับการตอบกลับ เธอก็หยุดติดต่อและหันไปคุยกับคนอื่นแทน พฤติกรรมนี้แสดงให้เห็นถึงความต้องการการมีปฏิสัมพันธ์และความสัมพันธ์ของซูซานแม้จะอยู่ในเรือนจำ
ในขณะที่ซูซานกำลังจะขอพิจารณาพักการลงโทษ (Parole) ซึ่งหมายถึงการปล่อยตัวนักโทษออกมาอยู่นอกเรือนจำก่อนครบกำหนดโทษภายใต้เงื่อนไขการคุมความประพฤติ เธอได้บอกกับครอบครัวว่าเธอคิดว่าตัวเองสมควรได้รับการปล่อยตัว ซึ่งสร้างความขัดแย้งและความเห็นที่แตกต่างกันในสังคม
คดีของซูซาน สมิธ ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในสังคม ทั้งในแง่ของความยุติธรรม การลงโทษ และการฟื้นฟูผู้กระทำผิด ในขณะที่เธอใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำและมีความสัมพันธ์กับชายหลายคน สังคมก็ยังคงตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของการพิจารณาพักโทษสำหรับผู้ที่ก่อคดีร้ายแรงเช่นนี้ ทั้งนี้ การตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของซูซาน สมิธ จะเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้