ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2567 เกิดปรากฏการณ์ที่น่าสนใจขึ้นในกรุงเทพมหานคร เมื่อมีรายงานการพบปลาหมอคางดำ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เอเลี่ยนสปีชีส์” จำนวนมากในบึงมักกะสัน ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญใจกลางเมือง เหตุการณ์นี้ได้ดึงดูดความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก ที่พากันหลั่งไหลมาจับปลาชนิดนี้เพื่อนำไปประกอบอาหาร
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 มีการรายงานผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะในเพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว3” ที่ได้โพสต์ภาพชาวบ้านจำนวนมากกำลังจับปลาหมอคางดำที่ลอยอยู่ใต้สะพานบริเวณบึงมักกะสัน พร้อมระบุข้อความว่า “ชาวบ้านแถวบึงมักกะสันบุกปราบเอเลี่ยน ปลาหมอคางดำไปทำเมนูอาหารเย็นวันนี้ ตกเย็นบรรยากาศเริ่มคึกคัก…มึงมาผิดจังหวัดหละ” ภาพและข้อความดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมายังบึงมักกะสันเพื่อร่วมจับปลา
สาเหตุของปรากฏการณ์ปลาลอยน็อก
จากการสอบถามนายกรณิศ บัวจันทร์ ผู้อำนวยการเขตราชเทวี ได้เปิดเผยถึงสาเหตุของปรากฏการณ์ปลาลอยน็อกนี้ว่า เกิดจากการที่สำนักระบายน้ำได้เร่งลดระดับน้ำในบึงมักกะสันลงเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่คาดว่าจะตกลงมา เป็นการป้องกันปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็วและมีการปิดประตูระบายน้ำ ทำให้ปลาจำนวนมากขาดออกซิเจนและเกิดภาวะน็อกน้ำ ลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังพบว่าปลาหมอคางดำไม่ได้มีเฉพาะในบึงมักกะสันเท่านั้น แต่ได้แพร่กระจายไปในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครแล้ว โดยเฉพาะในเขตฝั่งธนบุรี และล่าสุดได้พบในฝั่งพระนครด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของปลาชนิดนี้
**ประชาชนแห่จับปลา: จากอาหารเย็นสู่รายได้เสริม**
บรรยากาศการจับปลาที่บึงมักกะสันเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนจากหลายพื้นที่เดินทางมาพร้อมอุปกรณ์จับปลาและภาชนะสำหรับใส่ปลา ทั้งถัง กระสอบ ตะกร้า กะละมัง และกล่องโฟม บางคนขับรถมาจากพระราม 2 เป็นระยะทางไกล เพื่อมาร่วมจับปลาหมอคางดำ
นายพูนสิทธิ์ อายุ 44 ปี หนึ่งในผู้ที่มาจับปลา เล่าว่าเขาขี่รถมาจากพระราม 2 ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง และสามารถจับปลาได้ถึง 2 กระสอบใหญ่ น้ำหนักรวมประมาณ 40 กิโลกรัม โดยตั้งใจจะนำไปทำอาหารและแบ่งปันให้กับเพื่อนร่วมงานกว่า 30-40 คน
ส่วนนายณัฐพล อายุ 30 ปี ชาวบ้านย่านประชาสงเคราะห์ซอย 2 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบึงมักกะสัน เล่าว่าเขาใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงในการจับปลา และสามารถจับได้ทั้งปลานิลและปลาหมอคางดำ รวมกว่า 6 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 120 กิโลกรัม
**เมนูยอดนิยมจากปลาหมอคางดำ**
ประชาชนที่จับปลาหมอคางดำได้ต่างมีไอเดียในการนำไปประกอบอาหารหลากหลายเมนู โดยเมนูยอดนิยมที่หลายคนกล่าวถึง ได้แก่:
- ปลาย่างเกลือ
- ต้มยำปลาหมอคางดำ
- ปลาทอดกรอบ
- ปลาตากแห้งแล้วนำมาทอด
- ปลาเผา
หลายคนยืนยันว่ารสชาติของปลาหมอคางดำคล้ายคลึงกับปลานิล และสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการจับปลาหมอคางดำจะช่วยลดจำนวนปลาชนิดนี้ในแหล่งน้ำธรรมชาติ แต่ทางการก็ยังคงต้องหามาตรการระยะยาวในการควบคุมประชากรปลาชนิดนี้ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อระบบนิเวศในแหล่งน้ำของกรุงเทพมหานครต่อไป